ยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องเจ็บตัว ไร้รอยแผล ไม่ต้องพักหน้า (Painless Facelift)
หากต้องการใบหน้าที่กระชับ ไม่หย่อนคล้อย มีริ้วรอยน้อยที่สุด ก็ต้องแก้ไขและป้องกันให้ตรงจุด เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ คงสภาพได้ยาวนาน ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักประเมินปัญหาของตนเอง หาสาเหตุของความหย่อนคล้อยของตัวเองให้ถูกต้อง ชี้ให้ได้ว่าริ้วรอยและความหย่อนยานบนใบหน้าของเราเกิดจากความเสื่อมของชั้นใดบนใบหน้ากันแน่
บนใบหน้าจะประกอบด้วยอวัยวะที่สำคัญหลักๆ 7 ชั้นด้วยกัน
- ผิวหนัง ร่องรอยอารยธรรมทั้งมวลจะแสดงออกบนผิวหน้าของเรา ริ้วรอยทั้งร่องตื้น ตีนกา ร่องลึก ความห้อย หย่อนยานทั้งหลาย จะเห็นได้จากภายนอก ทำให้หลายๆคนพยายามแก้ปัญหาโดยการบำรุงผิว เพราะคิดว่าหากผิวสุขภาพดี ร่องรอยต่างๆจะหายไป แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่เห็นจากผิวหน้านั้นส่วนใหญ่คือ “ผล” ไม่ใช่ “เหตุ” การบำรุงผิวจึงไม่สามารถช่วยได้อย่างตรงจุด มีเพียงแต่ริ้วรอยร่องตื้นและการขาดน้ำเท่านั้นที่มีสาเหตุมาจากสุขภาพผิวจริงๆ
- ชั้นหนังกำพร้า ชั้นนอกสุดของผิวหนัง ที่บริเวณใบหน้า หนังกำพร้าจะมีความหนาประมาณ 0.08-0.15 mm ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสภาพแวดล้อมภายนอก และรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ถ้าผิวแห้งขาดน้ำ จะทำให้ผิวหน้าดูไม่สวย มีร่องรอยแตกลายเหมือนผืนดินที่แห้งน้ำ ในบางครั้งการทา Moisterizer เพียงอย่างเดียวให้เต็มที่ (โบกเข้าไปหนาๆค่ะ) ก็ช่วยลดริ้วรอยร่องตื้นได้แล้ว
- ชั้นหนังแท้ ส่วนประกอบหลักของผิวชั้นหนังแท้คือ คอลลาเจน และ อีลาสติน ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่น เด้ง แน่น กระชับ ให้กับผิวหนัง ช่วยอุ้มน้ำ ทำให้เกิดความชุ่มชื้น เต่งตึง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คอลลาเจนจะค่อยๆเสื่อมสภาพตามอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวหนังสูญเสียความกระชับ ดูไม่อ่อนเยาวน์ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจึงช่วยให้ผิวดูสวยขึ้น ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สำหรับฉีดตื้น ตรงเข้าที่ชั้นหนังแท้หลายยี่ห้อ โดยหวังให้ผิวดูเนียบ ผิวกระจก เหมือนผิวเด็ก ซึ่งยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผล กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างยอดเยียม นั่นคือการใช้คลื่น RF (Radio-Frequency) นวดผิวหน้า นอกจากช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้ว งานวิจัยยังพบว่าคลื่น RF ยังสามารถช่วยสลายไขมัน ลดการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้การเกิดสิวลดลง และทำให้รูขุมขนดูเล็กลงได้ถึง 60% แต่เครื่อง RF มีหลายรุ่น จึงควรให้แพทย์แนะนำการเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน
- ไขมันใต้ผิวหนัง เจ้าไขมันนอกจากจะทำให้หน้าดูอวบใหญ่แล้ว ตัวมันยังเป็น “ก้อนน้ำหนัก” ที่ตกลงตามแรงดึงดูดโลก เป็นน้ำหนักที่ดึงให้ใบหน้าของเราตกลงมาด้านล่าง หากแรงยกของใบหน้ามีน้อยกว่าน้ำหนักที่กดลง หน้าของเราก็จะห้อยย้อย ใหญ่ กลายเป็นชั้นเหนียงหนาบริเวณกรอบหน้าและใต้คาง
- ชั้นพังผืดและกล้ามเนื้อ
- ชั้นพังผืด หากพูดชื่อภาษาอังกฤษของชั้นพังผืดนี้ หลายๆคนอาจจะ “อ๋อ” ขึ้นมาเลย เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเครื่องมือที่ใช้ยกกระชับใบหน้าโดยการกระตุ้นชั้นพังผืดที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยเครื่องอาศัยคลื่นเสียงทะลุผ่านผิวหนังลงมาที่ชั้นพังผืด หรือที่รู้จักในนาม “สแมช (SMAS)” นั่นคือเครื่อง Ultherapy ที่จริงแล้ว SMAS คือพังผืดที่ยื่นต่อมาจากกล้ามเนื้อไปยึดเกาะกับชั้นผิวหนัง ดึงให้ผิวหน้าเรียบเนียน เมื่อแก่ตัวลง พังผืดยืดย้วยเหมือนยางยืดที่เริ่มยาน เลยทำให้ผิวหนังสูญเสียแรงดึง เกิดเป็นรอยย่นบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และกรอบหน้า
- ชั้นกล้ามเนื้อ บริเวณใบหน้ามีกล้ามเนื้อมากถึง 43 มัด บางมัดทำหน้าที่ยกหน้าขึ้น ในขณะที่บางมัดทำหน้าที่ดึงหน้าลง เมื่อเรายังเด็ก กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ดึงหน้าขึ้น ยังแข็งแรง มัดใหญ่ ดึงหน้าได้แน่น ใบหน้าจึงดูกระชับ แน่น ดูสุขภาพดี ไม่ตึงเปรี๊ยะแบบคนที่ผ่าตัดยกหน้า พออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อก็ค่อยๆฝ่อลง เหมือนกล้ามเนื้อบริเวณลำตัว ถ้าเราไม่ออกกำลังกาย ไม่ยกน้ำหนัก นับวันกล้ามเนื้อก็มีแค่จะฝ่อลง เกิดเป็นความหย่อนคล้อยทั้งตัว ในขณะที่กล้ามเนื้อยกหน้าฝ่อลง ไม่มีแรงดึงหน้าให้กระชับอีกต่อไป หน้าห้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก แต่กล้ามเนื้อที่ดึงหน้าลง กลับยังทำงานได้ดี เพราะแนวแรงดึงลง ไม่ได้ฝืนแรงโน้มถ่วง มันจึงยังดึงหน้าลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดเป็นความยาน ทุกอย่างดูลงมากองอยู่ตรงกราม แก้มย้อยเป็นท้องช้าง หลายๆคนไปยิง SMAS ก็แล้ว ไปทำเครื่อง RF ก็แล้ว ทำยังแก้มยังห้อยอยู่ นั่นเพราะแก้ไม่ถูกจุดคัน เครื่องมือไปไม่ถึงชั้นกล้ามเนื้อนั่นเอง
- เส้นเอ็นยึดเกาะ ชั้นนี้ไม่ได้มีบทบาทมากนักในเรื่องของความหย่อนคล้อยหรือการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ผ่าตัด
- ไขมันชั้นลึก ช่วงหลังมีเทรนด์การตัดไขมันกระพุ้งแก้มออก เพื่อให้แก้มดูเล็ก ดูเฉี่ยวแบบสายฝอ แต่รู้หรือไม่ ไขมันกระพุ้งแก้มที่หายไป ทำให้หน้าดูตอบ เป็นหนึ่งในสัญญาณของความแก่เลยนะ เมื่อทำการตัดออกไปแล้ว เอาคืนมาไม่ได้ ใครที่กำลังวางแผนจะตัดไขมันกระพุ้งแก้ม แนะนำให้ตัดสินใจให้ดี ทำตอนนี้หน้าดูเฉี่ยวสวย แต่พออายุมากขึ้น หน้าดูตอบ ถ้าตอนนั้นไม่ชอบ ก็แก้ยาก ต้องมั่นใจว่าเราจะชอบหน้าสไตล์นี้จริงๆ ถึงจะคุ้มค่าที่จะทำ
- เยื่อหุ้มกระดูกและพังผืดชั้นลึก ชั้นนี้ไม่ได้มีบทบาทมากนักในเรื่องของความหย่อนคล้อยหรือการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ผ่าตัด
- กระดูก อายุที่มากขึ้นทำให้กระดูกช่วงกลางใบหน้าบางและยุบตัวลง ทำให้ผิวหนังตก หย่อนลงมาได้ การเติมเต็มฟิลเลอร์เหนือกระดูกจึงช่วยทำงานแทนที่กระดูกที่หายไป ช่วยให้ใบหน้ามี Volume ผิวหนังถูกยกขึ้นได้เล็กน้อย และอีกหนึ่งปัญหาแก้ยากของคนหน้ากลม คือกระดูกกรามใหญ่ ทำมาแล้วทุกอย่าง ลดแล้วทุกอย่าง หน้ายังไม่ V อาจเป็นเพราะแม่ให้กระดูกมาหนา จึงมีการศัลยกรรมตัดกราม ทำให้หน้าเล็กลง แต่ถ้าใครไม่อยากเจ็บตัวผ่าตัด ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ แต่ต้องอาศัยระยะเวลา ความสม่ำเสมอ นั่นคือการฉีด Botulinum Toxin ย้ำๆที่บริเวณกรามไปเรื่อยๆเป็นเวลานาน (ซึ่งบอกไม่ได้ว่ากี่ปี 5 ปี 10 ปี หรือ 15 ปี) อาจช่วยให้กระดูกกรามเล็กลงได้
จะเห็นได้ว่าปัญาที่ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย หน้าดูใหญ่ หรือย้อยนั้นมาจากหลายสาเหตุร่วมกัน หลักๆ 6 อย่างคือปัญหาที่ 1. ชั้นหนังกำพร้า 2. ชั้นหนังแท้ 3. ไขมันใต้ผิวหนัง 4. ชั้นพังผืด 5. ชั้นกล้ามเนื้อ 6. กระดูก ถ้าแก้เฉพาะโครงสร้างชั้นใดชั้นหนึ่ง แต่ไม่ดูแลชั้นอื่นๆ ก็ไม่สามารถทำให้ใบหน้ากระชับได้ หลายคนเลยรู้สึกว่า ทำไมทำหน้ามาแล้วไม่เห็นผล นั่นเพราะยังทำไม่มากพอ ทำไม่ครบทุกชั้นของใบหน้า
ข่าวดี คือ ตอนนี้มีเครื่องมือใหม่ล่าสุดที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ถึง 5 จาก 6 ข้อ ในการทำเพียงเครื่องเดียว นั่นคือเครื่อง EMFACE®
EMFACE® มีกลไกการทำงานหลักๆ 2 อย่าง
- กระแสไฟฟ้า
-
- ใช้กระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อโดยตรง เล็งไปที่กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกหน้าขึ้นโดยเฉพาะ เปรียบเหมือนการเล่นกล้ามให้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆ กล้ามเนื้อที่เคยฝ่อลงจากอายุ สูญเสียแรงยกหน้า จะกลับมาแข็งแรง ยกกระชับใบหน้าได้เหมือนสมัยยังสาว และการทำงานของกล้ามเนื้อยังส่งผลให้พังผืดที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อกระชับขึ้น มีแรงดึงผิวมากขึ้น นอกจากนี้การกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากยังช่วยให้เกิดการยกคิ้วและชั้นตาขึ้น ช่วยลดอาการหนังตาหย่อน ตาตก ได้ด้วย โดยปกติแล้วเราจะไม่สามารถสั่งงานให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ 100% ทำให้เราไม่สามารถเล่นกล้ามให้กล้ามเนื้อใบหน้าด้วยตนเองได้ และเครื่อง EMFACE® ยังมีอีกหนึ่งข้อควรระวัง คือ หากกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นโดนกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ดึงหน้าลง กล้ามเนื้อมัดนั้นยิ่งแข็งแรงขึ้น หน้าของเราก็จะยิ่งถูกดึงให้ห้อยลง ดังนั้นการติดแผ่นส่งกระแสไฟฟ้าให้ถูกมัดกล้ามเนื้อจึงสำคัญมาก จำเป็นต้องให้แพทย์เป็นผู้ติดและคอยสังเกตการทำงานของกล้ามเนื้อหลังติดแผ่นสัญญาณแล้วเท่านั้น
- คลื่น RF (Radio-Frequency)
- นอกจากจะส่งกระแสไฟฟ้าแล้ว บนแผ่นสัญญาณยังมีการส่งคลื่น RF ออกมาด้วย ทำให้ผิวหนัง ทั้งชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ ได้รับการกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ผิวเนียนละเอียดมากขึ้น ชุ่มชื้น ริ้วรอยร่องตื้นลดลง จากงานวิจัยยังพบว่าเครื่อง EMFACE® ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่ม Volume ของใบหน้าส่วนกลางได้เฉลี่ยเทียบเท่ากับการฉีลฟิลเลอร์ 2 cc และหากเปรียบเทียบทั้งใบหน้า จะเฉลี่ยเทียบเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์ 5 cc เลยทีเดียว
แต่เครื่อง EMFACE® ไม่สามารถช่วยลดไขมันใต้ผิวหนัง จึงเหลืออีก 1 ข้อ ที่จำเป็นต้องใช้วิธีอื่นช่วยแก้ปัญหา เช่น การใช้เครื่อง RF รุ่น ThermiSmooth ที่สามารถช่วยสลายไขมันอย่างอ่อนโยน หรือการฉีด Botulinum Toxin ย้ำๆบริเวณกรามเพื่อลดความหนากระดูกกรามในระยะยาว นอกจากนี้ยังสามารถใช้การดูแลด้วยวิธีอื่นเพื่อเพิ่มผลลัพธ์จากการทำ EMFACE® ได้ด้วย เช่น การทำ EMFACE® ร่วมกับ Ultherapy เพื่อให้เกิดความกระชับของชั้นพังผืดและกล้ามเนื้อสูงสุด หรือการทำ EMFACE® ร่วมกับการฉีดเซลล์เพาะเลี้ยง MSCs เพื่อช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิว ให้ผิวเกิดความแข็งแรงและอ่อนเยาว์สูงสุด เป็นต้น
Botulinum toxin | Filler | Biostimulator | Ultherapy | Thermage | ThermiSmooth | EMFACE | |
ริ้วรอยตื้น | + | + | + | + | + | + | ++ |
ริ้วรอยลึก | + | ++ | – | ++ | ++ | + | ++ |
รูขุมขน | – | – | – | – | + | + | + |
สิว | – | – | – | – | ++ | + | + |
หนังกำพร้า | – | – | – | – | – | + | + |
หนังแท้ | + | + | + | + | + | + | ++ |
ไขมันใต้ผิวหนัง | – | – | – | – | +++ | + | – |
พังผืด | – | – | – | +++ | – | – | + |
กล้ามเนื้อยกหน้า | – | – | – | – | – | – | +++ |
กระดูก | + | + | – | – | – | – | + |
เจ็บ | + | + | + | +++ | +++ | – | – |
ระยะพักฟื้น | ไม่มี | 1-2 วัน
(รอยเข็ม) |
1-2 วัน
(รอยเข็ม) |
4-5 ชั่วโมง
(หน้าบวมแดง) |
ไม่มี | ไม่มี | 10-15 นาที
(รอยแดง) |
ระยะห่างที่แนะนำ | 6 เดือน | 6-24 เดือน
(แล้วแต่ชนิด) |
12-24 เดือน | 6-12 เดือน | 6-12 เดือน | 1 เดือน | 12-24 เดือน |
โปรแกรมแนะนำ EMFACE® x4 with Botox (Allergan) 50 Unit | |
---|---|
รายการ | ราคา |
เครื่องยกกระชับใบหน้าด้วยไฟฟ้า EMFACE® 4 ครั้ง | 196,000 บาท |
Botulinum toxin ยี่ห้อ Botox บริษัท Allergan 50 unit | 18,000 บาท |
ราคาเต็ม | 214,000 บาท |
พิเศษ 30 ท่านแรก | 159,000 บาท |
*เลือกรับของกำนัล 1 รายการ
1. ThermiSmooth 10 ครั้ง มูลค่า 25,000 บาท หรือ
2. ยิง IPL 10 ครั้ง มูลค่า 19,000 บาท หรือ
3. Ultherapy 200 Lines มูลค่า 30,000 บาท
(รวมส่วนลด 31-35%)
โปรแกรมพิเศษ EMFACE® x6 with Ultherapy 400 Lines with Botox (Allergan) 50 Unit | |
---|---|
รายการ | ราคา |
เครื่องยกกระชับใบหน้าด้วยไฟฟ้า EMFACE® 6 ครั้ง | 294,000 บาท |
Botulinum toxin ยี่ห้อ Botox บริษัท Allergan 50 unit | 18,000 บาท |
เครื่องยกกระชับใบหน้าด้วยคลื่นเสียง Ultherapy 400 Lines | 90,000 บาท |
เครื่องยกกระชับใบหน้าด้วยคลื่นวิทยุ ThermiSmooth 10 ครั้ง | 25,000 บาท |
ราคาเต็ม | 427,000 บาท |
พิเศษซื้อยกแพค | 255,000 บาท (ลด 40%) |