ตรวจหาสารพิษ (Toxic Screening)

วิธีการตรวจหาสารพิษที่เมดโทเปียแนะนำมีดังนี้

1. OligoScan (การตรวจระดับแร่ธาตุและโลหะหนักในเนื้อเยื่อ)

OligoScan เป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย สำหรับการตรวจระดับโลหะหนักและแร่ธาตุในเนื้อเยื่อด้วยเทคโนโลยี Spectrophotometry ส่องแสงลงบนบริเวณฝ่ามือและวัดการสะท้อนกลับของแสงที่ตกกระทบแร่ธาตุและโลหะหนักได้อย่างแม่นยำ ผลตรวจสามารถบอกระดับของโลหะหนัก 14 ชนิด และระดับแร่ธาตุได้อีกกว่า 20 ชนิด ทำให้เรารู้ระดับที่แท้จริงว่าขาดแร่ธาตุชนิดใด หรือมีโลหะหนักชนิดใดเกินในเนื้อเยื่อ

เทคโนโลยีการตรวจด้วยเครื่อง OligoScan เป็นลิขสิทธิ์จากสหรัฐอเมริกา ทุกครั้งที่มีการตรวจต้องส่งผลการสะท้อนกลับของแสงไปวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมพิเศษที่อเมริกา ผลตรวจที่ได้จึงเชื่อถือได้ ถูกต้อง แม่นยำ คุ้มค่า

ผลที่ได้สามารถบอกถึงสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย ประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษของร่างกาย รวมถึงการสะสมของโลหะหนักภายในเซลล์ที่ก่ออนุมูลอิสระ เป็นผลให้เซลล์แก่ เสื่อม และตายจากไป และยังรบกวนระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า นอนไม่หลับ ไม่มีแรง ปวดศีรษะ ลดน้ำหนักได้ยาก การตรวจ Oligoscan จึงจะช่วยให้แพทย์ปรับสมดุลแร่ธาตุ และกำจัดพิษจากโลหะหนักออกได้อย่างถูกต้อง

ข้อเสียของ OligoScan คือ ไม่สามารถตรวจซ้ำเพื่อติดตามผลในระยะเวลาสั้น ภายหลังทำการขับโลหะหนัก ต้องทิ้งเวลาประมาณ 2 ปี จึงแนะนำให้ตรวจซ้ำเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงได้อีกครั้ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับโลหะหนักในเนื้อเยื่อเป็นไปอย่างเชื่องช้า ใช้ระยะเวลายาวนานในการขับออกจากเนื้อเยื่อ ทำให้ต้องรอระยะเวลาก่อนจะทำการตรวจซ้ำได้

 

2. Urine Organic Profile (การตรวจวิเคราะห์สารอินทรีย์ในปัสสาวะ)

สารทุกชนิดที่เข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสารอาหาร ยา หรือแม้กระทั่งสารพิษ จะผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) ในเซลล์ กลายเป็นสารประเภทอนุพันธ์ต่างๆ (Metabolites) ก่อนกำจัดออกจากร่างกายตามช่องทางต่างๆ เช่น ลมหายใจ เหงื่อ การผลัดเซลล์ น้ำเหลือง อุจจาระ ปัสสาวะ เป็นต้น ซึ่งการเก็บปัสสาวะมาตรวจเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด 

การตรวจหาสารอนุพันธ์ในปัสสาวะสามารถบ่งบอกได้ว่ากระบวนการ Metabolism ในเซลล์ของเรานั้นสมบูรณ์หรือไม่ มีสะดุดที่ขั้นตอนไหน สารอาหารที่ได้รับเพียงพอหรือไม่ หรือมีสารใดเข้าสู่ร่างกายมากกว่าที่ควร และสารนั้นๆมีต้นตอมาจากที่ใด สามารถบอกได้แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ในบางครั้งสามารถตรวจพบว่ามีระดับสารบางชนิดผิดปกติหรือเสียสมดุลไปได้ก่อนที่จะเกิดโรคเสียอีก

สารพิษที่ตรวจได้จาก Urine Organic Profile จะไม่ใช่สารประเภทโลหะหนัก แต่จะเป็นสารประเภทยาฆ่าแมลง โฟม พลาสติก สารระเหย หรือสารพิษจากเชื้อโรค เป็นต้น ซึ่งสารพิษเหล่านี้เป็นสารพิษที่ปนเปื้อนอยู่ในสภาพแวดล้อม น้ำ อาหาร ของประเทศไทย ได้รับเข้าสู่ร่างกายทุกวันโดยไม่รู้ตัว การกำจัดสารพิษเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยสารอาหารหลายชนิด และยังต้องผ่านกระบวนการภายในร่างกายอีกหลายขั้นตอน นับเป็นหนึ่งใน Metabolism ที่สำคัญ เรียกว่า Detoxification ซึ่งสามารถดูได้ว่าความสามารถในการกำจัดสารพิษของเรานั้นสูงหรือต่ำได้จากผล Urine Organic Profile เช่นกัน

ค่าที่ได้จากการตรวจ Urine Organic Profile มีความเฉพาะกับคนนั้นๆ จึงทำให้แพทย์วางแผนการดูแลรักษาเฉพาะตัวให้กับคนๆนั้นได้อย่างเหมาะสมสูงสุด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจซ้ำเพื่อติดตามผลได้ในระยะเวลาสั้น หากรับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างเหมาะสม ก็สามารถตรวจติดตามผลได้ตั้งแต่ 3 เดือน หรือจะเว้นระยะเวลาห่างกว่านี้ก็ได้

 

3. Urine 8-OHdG (ตรวจดูความเสียหายของพันธุกรรม)

สารพิษที่น่ากลัวที่สุดอย่างหนึ่งคือ กัมมันตภาพรังสี เนื่องจากรังสีที่ผ่านเข้ามาในร่างกายจะตรงเข้าทำลายที่สารพันธุกรรม (DNA) ของเซลล์ทุกเซลล์ ทำให้การทำงานของเซลล์เปลี่ยนแปลงไปกึ่งถาวร การสร้างสารต่างๆ โมเลกุลที่เป็นองค์ประกอบของเซลล์ก็จะเสียสภาพไปด้วยเช่นกัน ความรุนแรงขึ้นอยู่กับความเข้มของกัมมันตรังสี ระยะเวลาที่สัมผัสรังสี ระยะห่างจากแหล่งกำเนิดรังสี และความสามารถในการซ่อมแซมพันธุกรรมของผู้ที่ได้รับรังสี

ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ภัยพิบัติทางกัมมันตภาพรังสีครั้งใหญ่หลากหลายครั้ง เช่น ไฟไหม้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วินด์สเกล 10 ตุลาคม 1957, ภัยพิบัติเชอร์โนบิล 26 เมษายน 1986 หรือระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ สงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1945 ทุกเหตุการณ์ล้วนมีผู้รับผลกระทบที่เกิดการกลายพันธุ์ของพันธุกรรม มีรายงานการเกิดมะเร็งตามมามากมาย ทั้งมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งที่ต่อมธัยรอยด์ มะเร็งเต้านม มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ เป็นต้น

เมื่อเดือนมีนาคม 2023 ได้มีรายงานการหายไปของแท่งเหล็กบรรจุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 จากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำนิคมอุตสาหกรรม 304 จังหวังปราจีนบุรี ภายหลังพบว่ามีการหล่อทำลายแท่งเหล็กบรรจุซีเซียม-137 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แท่งเหล็กหนา 5 นิ้ว ทำหน้าที่เป็นโล่กำบังไม่ให้กัมมันตภาพรังสีทะลุออกมา เมื่อแท่งเหล็กถูกหลอมทำลาย สารซีเซียม-137 ก็ถูกปลดปล่อยสู่ภายนอก ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าระยะเวลาที่ผ่านมามีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีหรือไม่ มีผู้ใดสัมผัสกับรังสีแล้วหรือยัง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีสารกัมมันตรังสีหลุดลอดออกมาสู่สาธารณะในประเทศไทย

DNA ภายในเซลล์ที่ถูกทำลายโดยกัมมันตภาพรังสี มักจะเกิดความผิดปกติที่ส่วนประกอบที่ชื่อว่า Guanine (G) จะถูกกลายสภาพเป็น 8-OHdGuanine (8-OHdG) ซึ่งไม่สามารถทำหน้าที่ จึงถูกเซลล์กำจัดส่วน 8-OHdG ทิ้งออกมาภายนอกเซลล์ ส่งต่อไปยังไต และถูกขับออกมาทางปัสสาวะ เราจึงสามารถตรวจระดับ 8-OHdG ได้ทางปัสสาวะ หากตรวจพบว่ามีระดับของ 8-OHdG ในปัสสาวะสูง ก็อาจบ่งบอกได้ว่ามีสารพันธุกรรมถูกทำลายจำนวนมาก แต่สาเหตุไม่ได้มาจากกัมมันตรังสีเพียงอย่างเดียง ในผู้ป่วยโรคมะเร็งบางราย มีการกลายพันธุ์ของพันธุกรรมสูง ก็สามารถตรวจพบ 8-OHdG สูงได้เช่นกัน

การรับรู้ถึงระดับสารพิษในร่างกายและจัดการอย่างเหมาะสมเป็นการดูแลรักษาสุขภาพในอนาคต เพราะผลกระทบจากสารพิษนั้นไม่อาจคาดเดาได้ ความรุนแรงที่เกิดในแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน การตรวจหาระดับสารพิษด้วยวิธีที่เชื่อถือได้เป็นก้าวที่สำคัญของความเป็นอยู่ที่ดีและสุขภาพแข็งแรงในระยะยาว

 

OligoScan (การตรวจระดับแร่ธาตุและโลหะหนักในเนื้อเยื่อ

Urine Organic Profile (การตรวจวิเคราะห์สารอินทรีย์ในปัสสาวะ)

Urine 8-OHdG (ตรวจดูความเสียหายของพันธุกรรม)

โปรแกรมแนะนำ การตรวจสารพิษ1
รายการ	ราคา
ระดับแร่ธาตุและโลหะหนักในเนื้อเยื่อ OligoScan	9,000 บาท
ตรวจวิเคราะห์สารอินทรีย์ในปัสสาวะ Urine Organic Profile	9,000 บาท
ราคาเต็ม	18,000 บาท
พิเศษซื้อยกแพค	12,990 บาท (ลด 27%)

โปรแกรมแนะนำ การตรวจสารพิษ2
รายการ	ราคา
ระดับแร่ธาตุและโลหะหนักในเนื้อเยื่อ OligoScan	9,000 บาท
ตรวจวิเคราะห์สารอินทรีย์ในปัสสาวะ Urine Organic Profile	9,000 บาท
ตรวจดูความเสียหายของพันธุกรรม Urine 8-OHdG	5,000 บาท
ราคาเต็ม	23,000 บาท
พิเศษซื้อยกแพค	16,590 บาท (ลด 27%)