รายละเอียดแพคเกจ
รายละเอียดแพคเกจ

สนใจติดต่อ

@Medtopia 098-9824658

ปวดเข่า ข้อ สัญญาณเตือนโรคข้อเข่าเสื่อมที่ต้องรีบดูแลอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะมีอาการเจ็บปวดรุนแรงและเรื้อรัง ด้วยโปรแกรมตรวจข้อเข่าเสื่อม

โรคเข่าเสื่อมหรือข้อเสื่อมเกิดจากอะไร?
โรคเข่าเสื่อมหรือข้อเสื่อม เป็นโรคของกระดูกอ่อน เกิดการสึกของกระดูกอ่อน และกระดูกแข็งบดกันเกิดการบาดเจ็บ ข้อปวด อักเสบ จนกระทั่งข้อบวมผิดรูปได้ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ หรืออาจจะมีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ น้ำหนักตัวเกินค่ามาตรฐานทำให้ข้อต้องแบกรับน้ำหนักเกินขีดความสามารถ รวมถึงการขาดการดูแลรักษาและการบริหารเข่าที่ไม่ถูกต้องด้วยเช่นกัน

 

ไม่อยากเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมรุนแรง ต้องรีบดูแล
อาการข้อเข่าเสื่อมแบ่งได้เป็น 4 ระยะ เช็คด่วนว่าอาการปวดข้อเข่านี้รุนแรงแค่ไหน

ระยะเริ่มต้น

ในระยะนี้คนไข้อาจจะยังไม่มีอาการปวด แต่สามารถรู้สึกถึงการขัดในเข่า มีเสียงผิดปกติจากเข่า การเคลื่อนไหวลำบาก โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ หรือพับเข่านานๆ ถ้าได้ขยับเคลื่อนไหวสักระยะหนึ่ง อาการขัดจะหายไป และกลับมาขยับได้เป็นปกติ ระยะนี้สามารถลองใช้อาหารเสริมชนิดบำรุงกระดูกอ่อน เสริมสร้างการซ่อมแซมกระดูกอ่อนได้ ถ้ากระดูกอ่อนซ่อมแซมจนกลับมาเป็นปกติก็จะหายจากโรคข้อเสื่อมได้

ระยะเบา

นอกจากกระดูกอ่อนที่สึกลงแล้ว ยังมีการแตกร้าวของกระดูกอ่อนร่วมด้วย สามารถพบการแคบลงของรอยต่อภายในข้อเข่า ทำให้รู้สึกปวดเข่าชัดเจนขึ้น อาการขัดในเข่าเป็นมากขึ้น เป็นนานขึ้น ซึ่งอาการอาจจะไม่ดีขึ้นหลังใช้อาหาารเสริมบำรุงกระดูกอ่อน การฉีดสารหล่อลื่นเข้าข้อสามารถช่วยลดการขัดและอาการปวดนั้นได้ เหมือนการหยอดน้ำมันหล่อลื่นใส่บานประตูที่ฝืดเคือง แต่เป็นการลดอาการปวดจากปลายเหตุ ในระยะนี้หากต้องการกระตุ้นการซ่อมแซมข้อเข่าอย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้วิธีการฉีดสาร Growth Factor (สารกระตุ้นการซ่อมแซมของเซลล์) ช่วยกระตุ้นให้กระดูกอ่อนที่แตกร้าวฟื้นฟูกลับมา

ระยะปานกลาง

หากปล่อยให้เข่าเสื่อมมากขึ้นจนถึงระยะนี้ จะสามารถพบภาวะกระดูกแข็งงอกผิดรูป สูญเสียเนื้อกระดูกอ่อน และรอยต่อภายในข้อเข่าจะชิดกันมาก ทำให้เกิดการเสียดสีรุนแรงของกระดูกแข็ง เกิดอาการปวดชัดเจน จนอาจต้องใช้ยาแก้ปวดหรือใส่อุปกรณ์สนับเข่าเพื่อบรรเทาอาการ อาหารเสริมไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้อีกต่อไป การฉีดสารหล่อลื่นเข้าข้อ หรือ ฉีดสาร Growth Factor (สารกระตุ้นการซ่อมแซมของเซลล์) อาจจะช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ แต่เนื่องจากปริมาณเนื้อกระดูกอ่อนที่เหลืออยู่น้อยจึงจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นเป็นระยะ ตามเวลาที่แพทย์กำหนด หรือสามารถเพิ่มจำนวนกระดูกอ่อนโดยการฉีดเซลล์เพาะเลี้ยงจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เข้าไปในข้อเข่า เพื่อกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนใหม่ ช่วยซ่อมแซมความขรุขระของผิวข้อเข่า แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องทำกายภาพบำบัดเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับข้อเข่าร่วมด้วยเสมอ การดูแลรักษาจึงจะเป็นผลอย่างมีประสิทธิภาพ

ระยะรุนแรง

เข่าเสื่อมระยะสุดท้าย ในระยะนี้กระดูกอ่อนที่เหลืออยู่ของข้ออาจจะมีไม่ถึง 30% ผู้ป่วยมักมีอาการปวดรุนแรง เดินลำบาก อาจต้องใช้ไม้ประคอง ไม่สามารถนั่งคุกเข่า นั่งพับขา หรือนั่งยองๆ ได้ และสามารถเห็นข้อเข่าผิดรูป เข่าโก่งได้ชัดเจน ใบบางรายอาจพบเศษกระดูกเสื่อมที่แตกออกมาตกค้างอยู่ภายในข้อไปกดเบียดผิวกระดูก ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงในบางครั้ง ซึ่งการรักษาที่เหมาะสมสำหรับเข่าเสื่อมระยะสุดท้ายคือการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนเฉพาะผิวข้อเข่าบางส่วน หรือผ่าตัดข้อเข่าเทียมทั้งหมด เป็นต้น

ในกรณีที่มีการเสื่อมของข้อจนกระทั่งเกิดอาการข้อบวม เข่าบวม ปวด นั้นเกิดจากการที่เยื่อหุ้มข้อเข่าอักเสบมาก มีการสร้างน้ำอักเสบภายในข้อ ข้อจึงบวมน้ำจนมองเห็นได้จากภายนอก การเจาะน้ำอักเสบออกจากเข่าจะช่วยบรรเทาอาการปวด และลดการบวมของข้อลงได้ ในบางครั้งแพทย์อาจทำการฉีดสารสเตอรอยด์ (Steroid) เพื่อลดการอักเสบของข้อ ทำให้อาการอักเสบปวดบวมกลับมาช้าลง แต่หากไม่รักษาข้อเข่าให้กลับมาเป็นปกติ หลังเจาะน้ำออก ร่างกายก็สามารถเกิดการอักเสบได้ใหม่ และเกิดเข่าบวมได้ใหม่เรื่อยๆ

โรคข้อเข่าเสื่อม สามารถดูแลและชะลอความเสื่อมของข้อเข่าได้ โดยรีบเข้าพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกโดยเร็วที่สุดเพื่อรับการดูแลรักษาและหาแนวทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีตั้งแต่ในระยเริ่มต้นเพื่อเป็นการป้องกัน ดูแล และฟื้นฟูข้อเข่าให้ยังคงสามารถใช้งานได้ดีไปอีกนานๆ โดยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการปวดเข่าจนถึงระยะเข่าเสื่อมรุนแรงระยะสุดท้าย ที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด เพื่อดูแลข้อเข่าให้อยู่กับเราได้อีกยาวนานยิ่งขึ้น  

ต้นเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม

พันธุกรรม

บริเวณข้อประกอบด้วย กระดูกอ่อน เยื่อหุ้มข้อ เป็นหลัก ซึ่งเนื้อเยื่อทั้ง 2 ชนิดนี้มีคอลลาเจนชนิดที่ 2, 9 และ 11 (Collagen type II, IX, XI) เป็นองค์ประกอบ หากใครมีความผิดปกติทางพันธุกรรมของคอลลาเจน ก็จึงอาจแสดงอาการข้อเสื่อมได้

น้ำหนักตัว

ข้อเป็นอวัยวะที่รับน้ำหนักของร่างกายและต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอด โดยเฉพาะข้อเข่า ที่รองรับน้ำหนักตัวทั้งหมดของเรา ดังนั้นหากมีน้ำหนักตัวสูง เข่าก็ต้องรับภาระแบกน้ำหนักมากต้องทำงานหนักมากกว่าที่จะรับไหว จึงเกิดเข่าเสื่อมได้ง่ายและเร็วกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวน้อย การควบคุมน้ำหนัก หรือการลดน้ำหนักจึงสามารถช่วยป้องกันหรือลดอาการขอโรคข้อเสื่อมลงได้

 

การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ

บริเวณรอบๆข้อเข่าของคนเราจะมีกล้ามเนื้อหลายมัดที่มาช่วยรองรับน้ำหนัก หากกล้ามเนื้อดังกล่าวอ่อนแรงลง ก็เหมือนผู้ช่วยของเข่าทำงานน้อยลง เข่าต้องแบกรับภาระมากขึ้นกว่าปกติ เข่าจึงเสื่อมได้ง่ายขึ้น การบริหารเข่าเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบเข่า ทำให้ผู้ช่วยของเข่าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เข่าจึงจะมีผู้ช่วยแบ่งเบาภาระ มีกำลังไปซ่อมแซมตนเองได้มากขึ้น

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการใช้งานไม่ถูกวิธี

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการใช้งานไม่ถูกวิธีมีหลากหลาย เช่น นักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อ ผู้ที่เคยถูกกระแทกบริเวณข้อ หรือคนที่งอเข่าประจำ นั่งยองๆ เป็นประจำ ก็จะมีโอกาสเกิดข้อเสื่อมได้เร็วกว่าคนทั่วๆไป

ตัวช่วยดูแลรักษาและป้องกันข้อเข่าเสื่อม
โรคข้อเข่าเสื่อม แม้ว่าจะยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาแบบควบคุมอาการปวดได้

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

Undenatured Collagen Type II (คอลลาเจนชนิดที่ 2 แบบยังไม่เสื่อมสภาพ)

กระดูกอ่อนและเยื่อหุ้มข้อ มีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบ แต่คอลลาเจนในร่างกายคนเรานั้นมีมากถึง 27 ชนิด ในอวัยวะแต่ละชนิดก็มีชนิดคอลลาเจนเฉพาะเจาะจงของตนเอง หากต้องการดูแลอวัยวะส่วนไหน ก็ต้องเลือกใช้ชนิดคอลลาเจนให้ถูกต้อง โดยคอลลาเจนหลักของข้อจะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen type II) นอกจากนี้คอลลาเจนเป็นสารอาหารประเภทโปรตีน ในขบวนการผลิตอาจถูกความร้อนหรือสารเคมีทำให้เสื่อมสภาพได้ จึงควรเลือกเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 2 ที่ยังไม่เสื่อมสภาพ จึงจะมีประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาได้ดีกว่าคอลลาเจนชนิดที่ 2 แบบทั่วไป

   

สารหล่อลื่นเข่า หรือ น้ำไขข้อเทียม

เป็นการฉีดสารสกัดกรดไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำเลี้ยงข้อเข่าในธรรมชาติ ช่วยหล่อลื่นและดูดซับแรงกระแทกให้กับกระดูกอ่อน ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ลดอาการปวดและอาการขัดของข้อ เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมระยะต้นถึงระยะปานกลาง โดยฉีดอาทิตย์ละ 1ครั้ง แต่จำเป็นต้องฉีดติดกันต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง จึงจะเห็นผล

Growth Factor (สารกระตุ้นการซ่อมแซมของเซลล์) หรือ PRP (เกล็ดเลือดเข้มข้น)

เลือดมีองค์ประกอบหลักอยู่ 4 อย่าง คือ น้ำเลือด เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ซึ่งภายในเกล็ดเลือดมีสารกระตุ้นการซ่อมแซมของเซลล์อยู่ การนำเกล็ดเลือดมาฉีดเข่าข้อจึงเป็นการฉีดสารกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์เข่า ช่วยให้เซลล์เข่าฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น ช่วยลดการอักเสบของเข่าได้ดี ทำให้การซ่อมแซมเข่าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วกว่าปกติ เป็นวิธีที่ได้ผลดี ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และมีผลข้างเคียงต่ำ

การฉีดเซลล์เพาะเลี้ยงจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์

มีการพัฒนาการเลี้ยงเซลล์เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ แล้วนำมาฉีดเข้าข้อเข่าให้กับคนไข้ เป็นการเพิ่มจำนวนเซลล์ที่แข็งแรงให้ข้อเข่า ให้มีเซลล์ที่สามารถมาซ่อมแซม ฟื้นฟูเข่ามากขึ้น

เมื่อฉีดเซลล์เพาะเลี้ยงแล้ว สามารถฉีด Growth factor ไปกระตุ้นให้เซลล์เพาะเลี้ยงในเข่าของเราเจริญเติบโตได้ดี ช่วยมาซ่อมแซมเข่าให้ดีขึ้น เป็นการช่วยฟื้นฟูเข่าจากต้นเหตุ ลดอาการปวดได้ในระยะยาว

แต่ภายหลังการฉีดเซลล์เพาะเลี้ยง ก็ยังจำเป็นต้องดูแลรักษาเข่า ทำกายภาพบำบัด เสริมความแข็งแรงให้เข่าอยู่เป็นประจำ เพราะหากใช้เข่าไม่ถูกวิธี เซลล์ที่ฉีดเข้าไปแล้วก็สามารถตายได้เช่นกัน

ลดน้ำหนัก

น้ำหนักตัวของเราเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเข่าทั้ง 2 ข้าง การลดน้ำหนักตัวลดได้ 10 % จะช่วยให้เข่าทำงานลดลง เกิดการกดทับน้อยลง มีการเสียดสีน้อยลง มีช่องว่างระหว่างข้อมากขึ้น หรือก็คือข้อเข่าสบายตัวขึ้นนั่นเอง

แต่ในผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมจะมีปัญหาในการออกกำลังกาย เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนไหวเข่าได้ดังใจนึก และยังเกิดอาการปวดเวลาออกกำลังกายได้ง่าย การลดน้ำหนักจึงเป็นเรื่องยาก คำแนะนำในปัจจุบันจะมุ่งเน้นการออกกำลังกายในน้ำ ให้น้ำชวยพยุงน้ำหนักตัวขณะออกกำลังกาย เช่น การว่ายน้ำ หรือการเดินในน้ำก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้การปรับฮอร์โมนช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ลดการสะสมของไขมันและน้ำตาล ก็จะสามารถช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้รวดเร็ว และปลอดภัย

สนับเข่า หรือ ตัวช่วยประคองเข่า หรือ อุปกรณ์พยุงเข่า

จะช่วยทำงานแทนกล้ามเนื้อรอบเข่า กระชับเข่า ช่วยรับน้ำหนักให้เข่าได้เล็กน้อย และยังช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวของเข่า ไม่ให้เข่าค้างในท่าที่ไม่ควรอยู่นานเกินไป การใส่ตัวช่วยประคองเข่าให้ได้ผลต้องเลือกไซส์ให้ถูกต้อง กระชับแน่นพอดีเข่า ไม่หลวมจนเกินไป ใส่ให้ถูกต้อง ถูกด้าน และควรใส่เวลาที่มีการใช้งานเข่าหนัก เช่น เวลายืน เดิน โดยเฉพาะช่วงบ่ายของวัน แต่ให้ถอดเวลานั่งพัก หรือนอน ให้ขาได้ใช้งานกล้ามเนื้อตัวเองบ้าง หากใส่ตลอดเวลาจะทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งาน และอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลงได้

ออกกำลังบริหารเข่า

เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบเข่า โดยให้นั่งบนเก้าอี้ หลังชนิดผนัง เหยียดเข่าให้ขาตรงสุด ยกให้ต้นขาลอยจากเก้าอี้เล็กน้อย เกร็งเข่าค้างไว้ท่านี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ถ้าสามารถทำได้ถึง 60 วินาทีจะดีมาก) ค่อยๆลงลดเข่าลงเมื่อครบเวลา แล้วค่อยเหยียดอีกข้างแบบเดียวกัน สำคัญคือต้องทำทีละข้างสลับกัน ข้างละ 10-15 ครั้ง ทุกเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน รวมวันละ 4 เวลา ถ้าสามารถทำได้คล่องแล้วสามารถเพิ่มน้ำหนักบริเวณข้อเท้า เป็นการเพิ่มความยากในการบริหารเข่าได้ด้วยกายภาพบำบัด ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การยืดเหยียด การดัดดีงข้อเข่า การใช้คลื่นเสียง

 

โปรแกรมแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการเข่าเสื่อมระยะต้น-เบา
รายการ ราคา
อาหารเสริมบำรุงเข่า Joint Support 3 กระปุก

4,500 บาท

ฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข่า Hyalgan 3 เข็ม

10,000 บาท

ฉีด Growth Factor สำเร็จรูป 3 ครั้ง

29,700 บาท

ราคาเต็ม

44,200 บาท

พิเศษซื้อยกแพค

35,360 บาท (ลด 20%)

*ดูแลรักษาและฉีดเข่าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ

โปรแกรมแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการเข่าเสื่อมระยะปานกลาง
รายการ ราคา
อาหารเสริมบำรุงเข่า Joint Support 6 กระปุก

9,000 บาท

ฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข่า Hyalgan 3 เข็ม

10,000 บาท

ฉีด Growth Factor สำเร็จรูป 3 ครั้ง

29,700 บาท

ฉีดเซลล์เพาะเลี้ยง MSCs 1 ครั้ง

150,000 บาท

ราคาเต็ม

198,700 บาท

พิเศษซื้อยกแพค

139,090 บาท (ลด 30%)

 

แถมฟรี IV drip x 2 ครั้ง มูลค่า 12,000   บาท

*ดูแลรักษาและฉีดเข่าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ

สนใจติดต่อ

@Medtopia 098-9824658