
เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ เตรียมพร้อมรับมือกับภูมิแพ้ง่ายๆ ตรวจให้แน่ใจว่าแพ้อะไร เพื่อดูแลสุขภาพให้ห่างไกลต่อสารที่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง ด้วยโปรแกรมตรวจภูมิแพ้
Allergy (ภูมิแพ้)
ภูมิแพ้ เป็นโรคที่มีความอันตรายน้อยแต่ก็กระทบกับไลฟ์สไตล์ของหลายๆ คน ที่ต้องใช้ชีวิตลำบากจากอาการไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก คันตา ผื่นแดงคันผิวหนัง ซึ่งอาการของโรคดูเหมือนจะเป็นมากขึ้น รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ หรือแม้แต่สารกระตุ้นต่างๆ ที่อาจจะก่อการระคายเคืองได้ ดังนั้นการป้องกันอาการภูมิแพ้ได้ง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยการตรวจหาสาเหตุของภูมิแพ้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การป้องกันตนเองอย่างตรงจุด
ต้นเหตุที่แท้จริงของภูมิแพ้เกิดจากอะไร?
จะเห็นได้ว่าต้นเหตุที่แท้จริงของภูมิแพ้เกิดมาจาการทำงานที่ผิดเพี้ยนไปของเม็ดเลือดขาว ที่ทำงานมากเกินไป และพยายามกำจัดสิ่งที่ไม่ใช่ศัตรูของเรา ดังนั้นถ้าเราสามารถปรับการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้กลับมาเป็นปกติได้ ก็จะสามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ลงได้
การเกิดภูมิแพ้ไม่ได้เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง แต่เกิดจากหลายๆปัจจัยร่วมกัน การรักษาหรือควบคุมอาการภูมิแพ้จึงควรดูแลแบบการแพทย์บูรณาการ คือแก้ไขป้องกันที่สาเหตุหลายๆทางพร้อมกัน การกินยาแก้แพ้จึงเป็นเพียงการรักษาตามอาการ แก้อาการชั่วคราวเท่านั้น

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้มีอะไรบ้าง?
บางทีชีวิตก็ต้องมาสะดุด กับอาการแพ้ ที่คอยมากวนใจ จะดีสักแค่ไหน ถ้าเราได้คำตอบของต้นเหตุของอาการแพ้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้อาหาร แพ้อากาศ หรือแพ้อะไรกันแน่ มาทำความรู้จักกับสาเหตุของอาการแพ้มีดังนี้
- พันธุกรรม – ส่วนใหญ่ได้รับมาจากพ่อแม่และสามารถส่งต่อสู่ลูกหลานของตนเองต่อไป โดยคนกลุ่มนี้มักจะมีอาการภูมิแพ้ตั้งแต่เด็กๆ ในบางรายอาจจะมีอาการเบาลงเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน
- สารพิษ – มลภาวะต่างๆ ในปัจจุบันสามารถรบกวนการทำงานของเซลล์ให้ทำงานผิดปกติได้ สารพิษที่แฝงตัวอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น โลหะหนัก มลภาวะทางอากาศ ควันดำรถ PM 2.5 สารเคมีทางการเกษตร สารเคมีปนเปื้อน รวมถึงสารพิษทั่วไปที่เผชิญอยู่เป็นประจำ คือ เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด
- การอักเสบของลำไส้และจุลินทรีย์ในลำไส้ – มีงานวิจัยบ่งชี้ว่าสุขภาพของลำไส้เกี่ยวโยงกับการทำงานของภูมิคุ้มกัน หากลำไส้อักเสบ จะเกิดการกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแปรปรวน สาเหตุของการอักเสบของลำไส้มีหลากหลาย ที่พบบ่อยคือ จุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล อาจเกิดจากปริมาณจุลินทรีย์น้อยเกินไป หรือมากเกินไป
- ภูมิแพ้อาหารแฝง – บางครั้งอาการแพ้ก็ไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนเสมอไป การแพ้อาหารแฝงจึงเป็นปัญหาที่คนไข้ไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อกินอาหารที่แพ้แฝง จะเกิดการอักเสบของลำไส้ชนิดไร้อาการปวด เมื่อเกิดเป็นประจำจะส่งผลให้เซลล์เยื่อบุลำไส้อ่อนแอ สลายตัว เกิดภาวะลำไส้รั่ว (Leaky gut) ทำให้เยื่อบุลำไส้มีรูรั่ว สารแปลกปลอมต่างๆ สามารถลอดผ่านเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดอาการคล้ายภูมิแพ้ และยังไปกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันทำงานแปรปรวน จุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ลดจำนวนลง สูญเสียความสมดุลของลำไส้ในระยะยาว
- การขาดสารอาหาร – สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไม่ได้มีแค่ แป้ง โปรตีน ไขมัน เท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิตามินและเกลือแร่อีกหลากหลายชนิด จึงมีการเรียกสภาวะการขาดวิตามินและเกลือแร่แฝงนี้ว่า Hidden Hunger และวิตามินที่พบว่ามีความสำคัญยิ่งยวด ช่วยควบคุมการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้เป็นปกติ คือ วิตามินดี3 (Vitamin D3)
- ขาดฮอร์โมน – ระดับฮอร์โมนสามารถส่งผลต่อการทำงานของภูมิคุ้มกันได้ หากมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) สูง และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ต่ำ มักก่ออาการภูมิแพ้ในผู้ที่มีปัญหาต่อมไทรอยด์หรือคนที่มีภาวะฮอร์โมนเครียด (Cortisol) ไม่สมดุล ก็ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้มากขึ้นเช่นกัน
- ความเครียดและการพักผ่อนน้อย – การพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับไม่เป็นเวลา ก็เป็นความเครียดร่างกายที่จะทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลงได้เช่นกัน
- เชื้อโรคบางชนิด – เชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียสามารถก่อภูมิแพ้เรื้อรัง นอกจากนี้ยังพบความสัมพันธ์กับการเกิดโรคภูมิแพ้ทำลายตัวเองและโรคลำไส้อักเสบแปรปรวนเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากเชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย
โรคภูมิแพ้ดูแลได้ แค่ตรวจให้รู้กับโปรแกรมตรวจภูมิแพ้
- OligoScan เป็นการตรวจปริมาณโลหะหนักและเกลือแร่โดยวิธีส่องแสง สามารถบอกระดับสารพิษโลหะหนักในเนื้อเยื่อ และบอกระดับเกลือแร่ เพื่อใช้นำข้อมูลมาปรับสมดุลร่างกายอย่างตรงจุด
- Urine organic เป็นการตรวจวิเคราะห์สมดุลหาสารชีวโมเลกุลและสารพิษชนิดเคมีที่อาจสะสมในร่างกายจากปัสสาวะ เพื่อวิเคราะห์ความผิดปกติของการทำงานของร่างกายในระดับเซลล์จนถึงการทำงานร่วมกันของอวัยวะต่างๆ
- Food IgG sensitivity test การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง เพื่อการวางแผนปรับอาหารให้เข้ากับร่างกายของเรา หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดลำไส้อักเสบได้อย่างถูกต้อง
- GI Effect การตรวจสุขภาวะของลำไส้ผ่านการวิเคราะห์อุจจาระขั้นสูงแบบเจาะลึก แสดงผลตั้งแต่ ระบบการย่อยอาหาร ความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สภาพความแข็งแรงของลำไส้ ระดับการอักเสบของลำไส้ ชนิดและปริมาณของเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ จนถึงการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อโปรตัวซัวในลำไส้ โดยใช้เทคนิคการตรวจหาพันธุกรรมของเชื้อจากอุจจาระ จึงสามารถตรวจจับการติดเชื้อได้อย่างแม่นยำ
- Vitamin D level การตรวจระดับวิตามินดี ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญในการควบคุมการทำงานของเม็ดเลือดขาว
- MicroNutrient Profile ตรวจระดับวิตามิน เกลือแร่ และสารต้ามอนุมูลอิสระในเลือด ช่วยบอกการขาดหรือเกินของสารอาหารแต่ละชนิดในร่างกาย ทำให้สามารถเลือกกินอาหารเสริมได้อย่างเหมาะสมกับสภาวะร่างกายของตนเอง
- Hormone Level ตรวจระดับฮอร์โมนต่างๆในร่างกาย ซึ่งสามารถเลือกตรวจฮอร์โมนได้หลายชนิด เช่น ฮอร์โมนเครียด (cortisol) ฮอร์โมนต้านเครียด (DHEA) ฮอร์โมนเพศ (Estradiol Progesterone Biavailable Testosterone) ฮอร์โมนไทรอยด์ (THS, Free T3, Free T4) ความแข็งแรงของต่อมไทรอยด์ ภูมิคุ้มกันทำลายต่อมไทรอยด์ (Anti-TG, Anti-TPO) หากพบว่ามีระดับฮอร์โมนไม่สมดุล แพทย์จะสามารถช่วยวางแผนการปรับฮอร์โมน หรือพิจารณาใช้ฮอร์โมนเสมือนธรรมชาติทดแทน เพื่อช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงและทำงานเป็นปกติ
โปรแกรมแนะนำสำหรับวิธีการล้างสารพิษเพื่อดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
- Colon Hydrotherapy (Closed system) การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำบริสุทธิ์ด้วยระบบปิด ควบคุมแรงดันและอุณหภูมิของน้ำเพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพการล้างลำไส้สูงสุด สามารถล้างลำไส้ได้จนสุดปลายไส้ติ่ง ลดสารพิษ คราบของเสียสะสมในลำไส้ และยังช่วยลดปริมาณเชื้อก่อโรคในลำไส้ลงด้วย
- IV Detoxification การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเพื่อการกำจัดสารพิษในร่างกาย ปรุงสูตรเฉพาะแต่ละบุคคลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสารอาหารสุขภาพ ช่วยกำจัดสารพิษอย่างปลอดภัยให้เซลล์ทุกเซลล์ เพิ่มระดับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระให่ร่างกายโดยตรง ลดการอักเสบทั่วร่างกาย ปรับการทำงานของภูมิคุ้มกันให้กลับมาเป็นปกติ
- Oral Chelation การกำจัดสารพิษด้วยอาหารเสริมชนิดรับประทาน เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้สารอาหารทางหลอดเลือด หรือผู้ที่กลัวเข็ม เป็นวิธีการล้างพิษที่ละน้อย ช้าๆอย่างปลอดภัย ต้องมีความต่อเนื่องและวินัยในการกินอาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ต่อเนื่องระยะยาว
- SuperSynbiotic เติมจุลินทรีย์ที่ดีให้แก่ร่างกาย ด้วยจุลินทรีย์แบบมีชีวิต พร้อมอาหารของจุลินทรีย์ เพื่อให้จุลินทรีย์สามารถมีชีวิตรอดได้ในลำไส้ของเรา ให้จุลินทรีย์ที่ดีช่วยสลายสารพิษหรือสารเคมีส่วนเกินในลำไส้ (ซึ่งจำเป็นต้องใช้จุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ กำลังเคลื่อนไหว ทำงานได้ ไม่สามารถใช้จุลินทรีย์ชนิดแห้งหรือจุลินทรีย์จำศีลหรือจุลินทรีย์แบบผง)