Your own formulation (สูตรเฉพาะเพื่อคุณคนเดียว)

คนทุกคนล้วนแตกต่างกัน แม้กระทั่งคนๆเดียวกันแต่ต่างเวลา สภาวะร่างกายก็แตกต่างกัน การได้สารอาหารก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย ณ ขณะนั้น จึงจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และปลอดภัยต่อร่างกายอย่างแท้จริง

Medtopia มีแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพซึ่งผ่านการอบรมพิเศษด้านการให้สารอาหารทางหลอดเลือดมาโดยเฉพาะ จึงสามารถออกแบบ ผสมสูตรพิเศษเฉพาะได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย เปรียบดั่ง TAILOR-MADE ให้กับคุณเพียงผู้เดียวในทุกๆครั้งที่มารับสารอาหาร นอกจากนี้คุณยังไม่ต้องกังวลกับคุณภาพของสารอาหารที่ได้รับ เพราะเราได้คัดสรรสารอาหารที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานระดับอเมริกาและยุโรป ซึ่งให้คุณค่าของสารอาหารสูงสุด

Medtopia Anti-chronic Inflammation (สูตรลดการอักเสบของร่างกายเฉพาะของ Medtopia)

การอักเสบเป็นต้นเหตุหลักหนึ่งที่ทำให้คนเราแก่ลง ร่างกายเสื่อมถอย การอักเสบเรื้อรังยังเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเหลอดเลือดตีบตีน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไขมันพอกตับ หรือแม้กระทั่งการขาดฮอร์โมนในวัยต่างๆ การจัดการกับสารก่ออักเสบจึงสำคัญต่อการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพทั้งในคนที่แข็งแรงดีและผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆแล้ว

สารต้านอักเสบในธรรมชาตินั้นมีหลายชนิด แต่มักจะมีปริมาณไม่สูงพอที่จะกดการอักเสบภายในร่างกายของเราได้ การให้สารต้านอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระทางหลอดเลือดจึงจะสามารถปรับปริมาณสารให้เข้มข้น และเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคนได้ และยังสามารถให้ชนิดของสารต้านอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระได้หลากหลาย เนื่องจากการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระนั้นต้องทำงานร่วมกันเป็นวงจร หากขาดตัวใดตัวหนึ่งไปจะทำให้การออกฤทธิ์ของทุกๆตัวลดลง ไม่เต็ม 100% แต่สารต้านอนุมูลอิสระหรือวิตามินบางชนิดนั้นก็ไม่สามารถให้ทางหลอดเลือดได่ จึงจำเป็นต้องรับประทานเสริมร่วมด้วยเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

Vitamin Cocktail (สูตรรวมวิตามินเข้มข้นพิเศษ)

จะรู้ได้ยังไงว่าเราขาดวิตามินอะไรบ้าง ?

คำตอบคือ เราไม่สามารถรู้ได้ทั้งหมด แม้กระทั่งการตรวจระดับวิตามินในเลือดก็ยังสามารถบอกระดับของวิตามินและแร่ธาตุได้บางชนิดเท่านั้น เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดไม่ได้สะสมในกระแสเลือด แต่สะสมอยู่ในเซลล์หรือเนื้อเยื่อของเราต่างหาก ถ้าอยากจะรู้จริงๆจึงต้องผ่าตัดเพื่อเก็บชิ้นเนื้อส่วนต่างๆไปตรวจเลยทีเดียว แต่จากรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่เรามักไม่ได้รับประทานอาหารที่สดใหม่และหลากหลายเพียงพอ นำไปสู่การขาดสารอาหารบางชนิดโดยไม่รู้ตัว โดยทางองค์การอนามัยโลกเรียกภาวะนี้ว่า “Hidden Hunger” และได้ประกาศว่าคนทั่วโลกตกอยู่ในภาวะนี้กว่า 2,000,000,000 (2 พันล้าน) คนเมื่อปีค.ศ. 2014

คุณจะเป็น 1 ใน 2,000,000,000 รึเปล่า…?

Pinky Winky (สูตรผิวอมชมพู ออร่า)

สีผิวของเราเกิดจากการสะสมของเม็ดสีใต้ผิวหนังที่ชื่อว่า Melanin แต่เม็ดสีของเราไม่ได้มีแค่เม็ดสีน้ำตาล-ดำเท่านั้น แต่ยังมีเม็ดสีชนิดสีชมพูด้วย โดยคนเอเชียส่วนใหญ่จะมีเม็ดสีน้ำตาล-ดำ ที่ชื่อว่า Eumelanins จึงทำให้สีผิวออกเป็นโทนเหลือง-น้ำตาล ในขณะที่ชาวตะวันตกส่วนใหญ่จะมีเม็ดสีชมพู ที่ชื่อว่า Pheomelanin ร่วมกับมีปริมาณเม็ดสีน้อย ทำให้ผิวออกขาวอมชมพู

ข่าวดีคือหากเราใช้สารต้านอนุมูลอิสระแบบพิเศษ ปริมาณสูงและเข้มข้น สารอาหารประเภทกรดอะมิโน (Amino acid) 3 ชนิด ร่วมกันการใช้สารตั้งต้นของการสร้างกลูต้าไธโอน (Glutathione) แบบธรรมชาติ เราจะสามารถเปลี่ยนการสร้างเม็ดสี Eumelanin เป็น Pheomelanin ได้ ทำให้เฉดสีผิวเปลี่ยนเป็นขาวอมชมพู ดูมีออร่า

แนะนำใช้สูตร Pinky Winky ร่วมกับ Blink White จะเห็นผลดียิ่งขึ้น

Liver Detox (สูตรล้างพิษตับ)

สารพิษอยู่รอบตัวเรา เรารับสารพิษใหม่ๆเข้ามาตลอดเวลา แต่ร่างกายของเราก็มีกลไกการขับสารพิษเช่นกัน หากเราสามารถขับพิษออกได้มากเท่าไร ก็ยิ่งดีต่อร่างกายมากแค่นั้น กลไกที่ว่านี้อาศัยอวัยวะต่างๆทำงานร่วมกันทั้งตับ ไต ผิวหนัง ปอด ลำไส้ใหญ่ ม้าม เลือดและน้ำเหลือง โดยอวัยวะที่ทำงานมากที่สุดคือ ตับ

หลักการทำงานของตับในการล้างสารพิษประกอบด้วย 3 ขั้นตอน

Phase 1 (ขั้นตอนแรก) เป็นการทำให้สารพิษละลายน้ำได้โดยอาศัยสารอาหารต่างๆเป็นตัวช่วย เช่น Vitamin B กลูต้าไธโอน สารพฤกษเคมี กรดอะมิโนชนิดแตกกิ่ง เป็นต้น
Phase 2 (ขั้นที่ 2) จะนำสารพิษที่ละลายน้ำได้มาจับกับสารขับพิษแบบต่างๆ เช่น จับกับกลูต้าไธโอน ซัลเฟอร์ เมทิล กรดอะมิโนต่างๆ เป็นต้น
ขั้นขับทิ้งจากตับ เกิดจาการที่สารขับพิษลากเอาสารพิษทิ้งออกนอกตับไปยังอวัยวะขับพิษต่างๆ เช่น ถุงน้ำดี ผิวหนัง และไต เพื่อขับออกมากับน้ำดี เหงื่อ และปัสสาวะ
สูตรล้างพิษตับของ Medtopia จะผสมสารอาหารและสารพฤกษเคมีที่จำเป็นต้องใช้ใน Phase 1 และ Phase 2 ของตับเพื่อส่งเสริมให้กลไกการล้างพิษของตับเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์

HANG ! (สูตรลดและแก้อาการแฮงค์)

อาการแฮงค์เกิดจากอะไร ?

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอาการแฮงค์เกิดจากการขาดน้ำและฤทธิ์ของแอลกอฮล์ แต่ที่จริงแล้วนั้นสาเหตุของอาการแฮงค์มีมากกว่านั้น เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์มากๆร่างกายจะไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้หมด หลงเหลือความเป็นพิษตกค้างในร่างกาย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและสารอนุมูลอิสระทำลายอวัยวะต่างๆ สมองเกิดการอักเสบและทำงานผิดปกติ เราจึงรู้สึกมึนหัว นอกจากนั้นพิษแอลกอฮอล์ยังไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนที่ใช้ในการผ่อนคลาย แม้เราจะคิดว่าเวลาเมาหนักแล้วจะได้หลับสนิท แต่จริงๆแล้วร่างกายของเราไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มเลย ระบบทางเดินอาหารก็ระคายเคืองจากพิษแอลกอฮอล์ทำให้เรารู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับการปัสสาวะมาก เหงื่อออกมาก ยังทำให้ร่างกายขาดน้ำจำนวนมากจนสมองเหี่ยวตัวลงทำให้หลอดเลือดและพังผืดที่ยึดสมองถูกดึงรั้งจนตึงจนเกิดอาการปวดศีรษะขึ้น พิษแอลกอฮอล์ปริมาณมากยังไปเผาผลาญสารต้านอนุมูลอิสระที่สะสมไว้ในตับจนหมด เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน ตับไม่สามารถผลิตน้ำตาลให้แก่ร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ เมื่ออวัยวะต่างๆขาดน้ำตาลมาใช้สร้างพลังงาน ทุกๆเซลล์ก็เหมือนถูกตัดพลังและหมดแรง ร่างกายของเราจึงอ่อนแอลง กลายเป็นอาการแฮงค์ หนักศีรษะ ปวดศีรษะ คิดไม่ออก สมองตื้อ ตาพร่า คลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว เดินเซ ฯลฯ

วิธีที่จะลดอาการแฮงค์ได้ก็ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมรับศึกพิษแอลกอฮอล์ เติมสารต้านอนุมูลอิสระที่ตับและสมองต้องการ สารอาหารที่จำเป็นในการสลายพิษแอลกอฮอล์ ทั้ง น้ำตาล โปรตีน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รวมถึงเติมน้ำแร่ให้เพียงพอ เพื่อให้สมองที่เหี่ยวตัวลงกลับมาเต่งตึงได้อีกครั้ง

นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ยังไปยับยั้งการดูดซึมสารอาหารหลายชนิด และไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ เราจึงต้องได้รับสารอาหารและเชื้อจุลินทรีย์เสริมอีกด้วย

Blink White (สูตรขาวใสเจิดจ้า)

ผิวคล้ำเกิดจากอะไร ?

สีผิวของเราเกิดจากการสะสมของเม็ดสีใต้ผิวหนังที่ชื่อว่า Melanin โดยเซลล์เม็ดสีที่ชื่อว่า Melanocyte หากผิวถูกทำร้าย ไม่ว่าจากแสงแดด หลอดไฟ แสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์/มือถือ หรือแม้กระทั่งไฟจากเตาทำอาหาร ทำให้เซลล์ผิวไม่ปลอดภัย DNA ถูกทำลาย Melanocyte จะสร้างเม็ดสี Melanin ออกมาเพื่อปกป้องเซลล์ผิวของเรา

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผิวขาดเม็ดสี Melanin ?

ร่างกายสร้าง Melanin เพื่อมาปกป้องเซลล์ผิวของเรา ถ้าหากเราใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อกดการสร้างเม็ดสี ก็จะทำให้เซลล์ผิวขาดตัวปกป้องและอ่อนแอลง จนถูกทำลายจากสภาวะแวดล้อมและมลพิษต่างๆ คุณอยากได้ผิวขาว แต่หยาบกร้าน แก่ก่อนวัย อย่างนั้นหรือ ?

สูตร Blink White ของ Medtopia นอกจากมีตัวช่วยลดการสร้างเม็ดสี Melanin แล้วยังมีสารอาหาร วิตามิน สารต้านอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะปกป้องผิวของคุณ ช่วยให้ผิวขาว สวย อย่างปลอดภัย

แนะนำใช้สูตร Blink White ร่วมกับ Pinky Winky จะเห็นผลดียิ่งขึ้น

Energy Booster (สูตรเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย)

เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ต้องการพลังงานด่วน

สารอาหารเข้มข้นกับวิตามินเร่งเมตาบอลิซึมคือคำตอบ

ALA Concentrate (สูตรเอ-แอล-เอ เข้มข้น 4-8 เท่า)

สารต้านอนุมูลอิสระมีมากมายหลายชนิดทำงานร่วมกันเป็นวงจร เมื่อสารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งทำงานไปแล้วจะหมดฤทธิ์และเสียสภาพไป ทำให้เราจำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระใหม่ๆเข้าสู่ร่างกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ ALA มีความพิเศษไม่เหมือนใคร คือมันสามารถช่วยคืนชีพให้สารต้านอนุมูลอิสระที่หมดฤทธิ์ไปแล้วกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง เป็นการเพิ่มฤทธิ์ให่แก่สารต้านอนุมูลอิสระได้เป็นเท่าตัว

นอกจากนี้ ALA ยังมีความสามารถในการบำรุงตับอ่อน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และมีฤทธิ์ขับสารพิษ โลหะหนักบางชนิดออกจากร่างกายได้ด้วย

*ALA เข้มข้นเกิน 4 เท่า ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ต่ำแฝง

Megadose Vitamin C (สูตรวิตามินซีมหาศาล)

ในมวลหมู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีเพียงมนุษย์ ลิง หนูตะเภา และค้างคาวบางชนิดเท่านั้นที่ไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้ด้วยตัวเองเนื่องจากการกลายพันธุ์ของยีน L-gulono-γ-lactone oxidase (GLO) สมมติฐานว่าเกิดจากการที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้รับวิตามินซีได้อย่างเพียงพอจากอาหาร ทำให้ยีนสำหรับสร้างวิตามินซีไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

แต่อาหารของเราในปัจจุบันมีวิตามินซีเพียงพอเหมือนในสมัยก่อนรึเปล่า ?

วิตามินซีมีมากที่สุดในอาหารสดใหม่ เช่น เนื้อสัตว์ที่เพิ่งชำแหละ ผลไม้ที่เพิ่งเด็ดออกจากต้น หรือพืชผักที่เพิ่งเก็บเกี่ยว และระดับวิตามินซีในอาหารจะลดลงเรื่อยๆตามระยะเวลาที่ผ่านไป แล้วคุณคิดว่าอาหารที่ซื้อทุกวันนี้สดใหม่แค่ไหน ? ฝรั่งที่ขายในตลาดเด็ดจากต้นมาแล้วกี่อาทิตย์ ? ผักบนแผงเก็บเกี่ยวมาแล้วกี่วัน ? กว่าจะถึงมือคุณระดับของวิตามินจะเหลืออยู่ได้สักเท่าไร ?

การรับประทานวิตามินซีเสริมจะสามารถทดแทนวิตามินซีที่ขาดหายไปได้ แต่ร่างกายของเราสามารถดูดซึมวิตามินซีได้ทีละนิดเท่านั้น การรับประทานปริมาณมากไม่ได้ทำให้การดูดซึมเพิ่มขึ้น (การรับประทานปริมาณต่ำ ต่บ่อยครั้งต่างหากที่สามารถเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีได้มากขึ้น) ส่วนการให้วิตามินซีทางหลอดเลือดจะเพิ่มระดับวิตามินซีได้มากกว่าการรับประทาน 40-50 เท่า ซึ่งระดับวิตามินซีในกระแสเลือดที่สูงมากๆจะสามารถกดการอักเสบของร่างกาย ช่วยปรับการทำงานของภูมิคุ้มกัน และสามารถกดการสร้างเม็ดสี Melanin ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อีกด้วย

*โมเลกุลของวิตามินซีมีหน้าตาคล้ายกับน้ำตาลมาก หลังได้รับวิตามินซีปริมาณสูง อาจตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ เนื่องจากเครื่องตรวจเข้าใจผิดว่าวิตามินซีคือน้ำตาล*

Amino Booster (สูตรโปรตีนพืเศษขนาดเล็ก)

กินแป้งหรือน้ำตาลมากเกินไป ทำให้อ้วน อาจเป็นเบาหวานได้

กินไขมันเลวมากเกินไป ทำให้อ้วน สารพิษสะสม ก่อการอักเสบแก่ร่างกาย

แต่คนเราไม่มีการกินโปรตีนมากเกินไป เพราะเราขาดโปรตีนอยู่เสมอ

การทำงานของร่างกายอาศัยโปรตีนในทุกขั้นตอน โปรตีนเป็นโครงสร้างของร่างกาย พันธุกรรมทำงานผ่านโปรตีน เอนไซม์ในร่างกายสร้างมาจากโปรตีน เมตาบอลิซึมระดับเซลล์ต้องอาศัยโปรตีน ฮอร์โมนและสารสื่อประสาทบางอย่างสร้างจากโปรตีน ภูมิคุ้มกันของร่างกายเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง โปรตีนหลายชนิดทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แม้กระทั่งการล้างพิษตามธรรมชาติของตับก็ยังใช้โปรตีน จะเห็นว่าร่างกายใช้โปรตีนมากมายมหาศาล เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีโปรตีน ร่างกายจะนำโปรตีนเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ยังส่วนต่างๆ ไม่ได้สลายเป็นพลังงานเหมือนน้ำตาลหรือไขมัน ในยามอดอาหารร่างกายเลือกที่จะเก็บโปรตีนไว้เป็นอย่างสุดท้าย เพราะโปรตีนนั้นสำคัญที่สุด

มารับโปรตีนเสริมสักหน่อย เพื่อร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง

Chelation (สูตรล้างพิษโลหะหนัก)

โลหะหนักมาจากไหน ?

หลังจากโลกเราผ่านเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมและการทำเหมืองแร่ โลหะหนักมากมายแพร่กระจาย ปนเปื้อนไปทั่วทั้งโลก ไม่รวมโลหะหนักที่มนุษย์จงใจนำมาใส่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์ ทำให้เราได้รับโลหะหนักเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว ทั้งจากเครื่องสำอางที่มีสีต่างๆ ยาย้อมผม สีทาเล็บ สีทาบ้าน สารเคมี ยาฆ่าแมลง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องครัว เครื่องประดับ น้ำประปา ฝุ่น PM2.5 ในอากาศ อาหารโดยเฉพาะอาหารทะเล พืชผัก ต่างๆ หรือแม้กระทั่งใน ยา วัคซีน ก็สามารถมีโลหะหนักปนเปื้อนได้

ร่างกายมนุษย์ไม่เคยรู้จักกับโลหะหนักมาก่อนตั้งแต่ยุคหิน ทำให้พันธุกรรมของเราไม่มีระบบจัดการ ป้องกัน หรือขับโลหะหนักเหล่านี้ออก เมื่อได้รับโลหะหนักเข้าสู่ร่างกายก็มักจะติดอยู่ในร่างกายเราไปจนวันตาย ซึ่งโลหะหนักเหล่านี้จะไปรบกวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ เร่งให้เกิดการเสื่อมถอยของเซลล์โดยที่เราไม่รู้ตัว หรือกระตุ้มให้เกิดโรคเรื้อรัง โรคทางภูมิคุ้มกัน และมะเร็งได้ (ยกเว้นแต่จะได้รับโลหะหนักในปริมาณสูงเฉียบพลันก็อาจมีอาการให้เห็นชัดเจน)

ในสมัยสงครามโลกมีการนำโลหะหนักมาทำเป็นอาวุธมากมาย ประเทศต่างๆจึงได้คิดค้นสารที่จะนำมาบ้างพิษโลหะหนักเพื่อช่วยทหารและประชาชนของตน การล้างพิษด้วยสารล้างพิษโลหะหนักต่างๆนั้นเรียกว่าการทำ Chelation นั่นเอง โดยสารแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการจับโลหะหนักแตกต่างกัน หากเราเลือกสารล้างพิษมาไม่ตรงกับโลหะหนักที่เรามีในร่างกาย ก็ไม่สามารถช่วยล้างพิษได้ ดังนั้นการตรวจดูชนิดโลหะหนักที่สะสมในร่างกายเราก่อนการเลือกสารล้างพิษจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด โลหะหนักที่สะสมในร่างกายมักจะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของเรา ไม่ได้อยู่ในเลือดหรือปัสสาวะ การตรวจระดับโลหะหนักที่แนะนำจึงเป็นวิธีการตรวจในเนื้อเยื่อ คือการตรวจด้วยเครื่อง OligoScan เป็นการส่องแสงลงบนบริเวณฝ่ามือ สามารถบอกระดับของโลหะหนัก 14 ชนิด และระดับแร่ธาตุได้อีกกว่า 20 ชนิด

นอกจากนี้การทำ Chelation ยังช่วยดึงแร่ธาตุส่วนเกินออกได้ด้วย เช่น ธาตุเหล็กเกิน แคลเซียมเกาะสะสม จึงสามารถช่วยลดการแข็งตัวของหลอดเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ในการวิจัยที่สหรัฐอเมริกาพบกว่าการให้ Chelation ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดและเบาหวาน สามารถลดโอกาสการเกิดหัวใจขาดเลือดซ้ำได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ผลข้างเคียงจากการทำ Chelation
1. เนื่องจากการขับโลหะหนักออกจากร่างกายจำเป็นต้องทิ้งผ่านไต หากผู้ที่มีค่าไตสูงหรือไตอ่อนแออยู่เดิม อาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้นได้ จึงควรตรวจการทำงานของไตเป็นระยะๆภายใต้การดูแลของแพทย์ระหว่างทำ Chelation เสมอ และดื่มน้ำแร่มากๆอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวันเพื่อช่วยเพิ่มการขับออกของสารพิษทางปัสสาวะให้ดีขึ้น
2. การขับโลหะหนักออกต้องอาศัยการทำงานของอวัยวะหลายชนิด ทำให้ร่างกายทำงานหนักมากขึ้นในช่วง 1-2 วันหลังได้รับ Chelation แม้จะพบได้น้อย แต่บางคนก็อาจมีอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หรือรู้สึกเหมือนเป็นไข้ได้เล็กน้อย หากมีอาการควรดื่มน้ำแร่ วิตามิน/แร่ธาตุเสริม และนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
3. Chelation สามารถดึงแร่ธาตุส่วนเกินบางชนิดออกได้ แต่หากแร่ธาตุถูกดึงออกมากเกินไปจะทำให้เกิดการขาดเกลือแร่ได้ หลังทำ Chelation จึงควรดื่มน้ำแร่ และแร่ธาตุเสริม เช่น สังกะสี แมกนีเซียม ซีลีเนียม เป็นต้น
4. ในผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน การทำ Chelation สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ หากรู้สึกเหมือนน้ำตาลตกหลังทำ Chelation สามารถอมลูกอม หรือกินผลไม้เล็กน้อยเพื่อคงระดับน้ำตาลในเลือดได้