รายละเอียดแพคเกจ
รายละเอียดแพคเกจ

สนใจติดต่อ

@Medtopia 098-9824658

Liver Regeneration โปรแกรมฟื้นฟูการทำงานของตับและล้างสารพิษในตับ

ภาวะตับอักเสบ ไขมันพอกตับ หรือตับแข็ง คงไม่มีใครอยากเผชิญกับภาวะโรคร้ายเหล่านี้ไปตลอดชีวิต “ตับ” เป็นอวัยวะที่สำคัญที่ควรดูแลเป็นพิเศษ ถึงเวลาดูแลฟื้นฟูตับให้กลับมาแข็งแรง ด้วยโปรแกรมการล้างพิษตับ (Liver Detoxification) เพราะสุขภาพตับที่ดีจะทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและอยู่กับคนที่คุณรักไปอีกยาวนาน

ตับ (Liver) สำคัญต่อร่างกายของเราอย่างไร ?

ตับ ทำหน้าที่หลายร้อยอย่างในร่างกายของคนเรา โดยทำหน้าที่คล้ายต่อมที่มีหน้าที่ผลิตโปรตีนและฮอร์โมนบางชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายของเราในทุกๆ วัน เช่น การขับและการขจัดของเสียออกจากเลือด การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมการแข็งตัวของเลือด และการสร้างสารอาหารที่จำเป็นให้กับร่างกาย 

นอกจากนี้ตับยังทำหน้าที่ กรองเชื้อโรค แบคทีเรีย รวมถึง การกรองเลือด (Filters Blood) เพื่อช่วยกรองสารพิษและของเสียต่างๆ ออกมาจากเลือดที่มาจากกระเพาะอาหารและลำไส้เพื่อส่งไปยังระบบขับถ่าย เช่น สารพิษจำพวก แอมโมเนีย แอลกอฮอล์ คาร์บอนเตตราคลอไรด์ และคลอโรฟอร์ม

ความมหัศจรรย์ของ “ตับ” ที่คุณต้องรู้

ตับเป็นอวัยวะที่มีความสามารถฟื้นฟูตัวเองได้สูงมาก หากได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และยังต้องการสารต้านอนุมูลอิสระอีกมากมายเพื่อช่วยปกป้องไม่ให้อะไรมารบกวนกระบวนการซ่อมแซมที่กำลังจะเกิดขึ้น และช่วยให้เซลล์ตับใหม่อยู่รอดได้อย่างแข็งแรง โดยตับสามารถสร้างเซลล์ตับใหม่แทนที่เซลล์ตับเก่าที่ตายไปแล้วได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ถึงแม้ว่าเนื้อตับจะถูกทำลายไปแล้วกว่า 70% ตับก็ยังสามารถกลับมาฟื้นฟูตัวเองได้

การล้างพิษตับเหมาะกับใคร ?
– ผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุราเป็นประจำ หรือชอบทานอาหารทอด ปิ้ง ย่าง เป็นต้น

– กลุ่มคนทำงาน ที่มีความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การเกิดโรคและภาวะต่างๆ เช่น ตับอักเสบ ตับแข็ง เป็นต้น

ตับขับสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างไร?
การล้างพิษตับเป็นกระบวนการที่สำคัญในการฟื้นฟูซ่อมแซมตับ ด้วยการทำความสะอาดให้เซลล์ตับที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นแข็งแรงขึ้น โดยปราศจากสารพิษ การล้างพิษตับนั้นมีด้วยกัน 3 ขั้นตอน ดังนี้ 

ขั้นตอนที่ 1 การควบคุมสารพิษ 

ในขั้นตอนแรกตับจะทำการควบคุมให้สารพิษที่สะสมในร่างกายเหล่านี้ละลายน้ำ โดยเอาสารพิษมาผูกติดกับสารบางชนิดที่สามารถละลายน้ำได้ เช่น Vitamin B, Glutathione, Phytonutrient (สารพฤกษเคมี), BCAA (กรดอะมิโนชนิดแตกกิ่ง) เป็นต้น แต่การทำให้สารพิษละลายน้ำได้ ไม่ได้เป็นการทำให้สารพิษหมดฤทธิ์ กลับกัน ในบางครั้งสารพิษอาจจะมีความเป็นพิษเพิ่มขึ้นได้ ! ดังนั้นจึงต้องมีกระบวนการทำงาน โดยส่งสารพิษที่สะสมในร่างกายนี้ เข้าสู่ขั้นต่อไปคือ ขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 2 การกรองสารพิษ 

ในขั้นตอนที่ 2 นี้ เป็นขั้นตอนที่ทำให้สารพิษนั้นหมดฤทธิ์และปลอดภัยเพียงพอก่อนที่จะขนส่งสารพิษไปตามกระแสเลือด ซึ่งทำได้โดยการทำสารพิษจากขั้นตอนแรกมาจับกันสารพิเศษบางตัว เช่น Glutathione, Sulfur (สารซัลเฟอร์), Methyl group (หมู่เมทิล), Amino acid (กรดอะมิโน โปรตีนตัวย่อยต่างๆ) เป็นต้น เมื่อผ่านขั้นตอนที่ 2 แล้ว สารพิษก็จะหมดฤทธิ์โดยสิ้นเชิง สามารถที่จะส่งต่อไปยังอวัยวะต่างๆ เพื่อขับออกจากร่างกายได้

ขั้นตอนที่ 3 การขับและขจัดสารพิษออกจากตับ

ในขั้นตอนสุดท้ายนี้ คือ การขับและขจัดสารพิษออกไปนอกตับ เพื่อส่งต่อไปยังอวัยวะต่างๆ เพื่อช่วยขับและขจัดสารพิษต่อไป เช่น ถุงน้ำดี ผิวหนัง และไต เพื่อขับสารพิษออกมาทางน้ำดี เหงื่อ และปัสสาวะ แต่การขับสารพิษออกทางถุงน้ำดี สารพิษจะถูกขับออกมาอยู่ในลำไส้อีกครั้งหนึ่ง เพราะสารพิษมาคู่น้ำดีที่ถูกหลั่งเข้ามายังภายในลำไส้ จึงมีโอกาสที่จะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกายได้อีกครั้งหนึ่ง การจะป้องกันไม่ให้สารพิษถูกดูดกลับ คือ ต้องอาศัยไฟเบอร์และจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ เนื่องจากไฟเบอร์จะช่วยกักเก็บสารพิษไว้ในลำไส้ แล้วจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ของเราจะช่วยย่อยสลายสารพิษให้กับเรา ทำให้สารพิษสลายไปก่อนที่จะถูกดูดกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

โปรแกรมพิเศษสำหรับผู้ที่มีปัญหาภาวะตับทำงานไม่ปกติ
เมื่อคุณกำลังเผชิญกับภาวะเหล่านี้ เราพร้อมดูแลคุณโดยทีมแพทย์และบุคลากรผู้ชำนาญการ

การรักษาไขมันพอกตับ

ในการรักษาไขมันพอกตับ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้ในการควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารประเภทน้ำตาล Fructose การลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การลดน้ำหนัก โดยควรเริ่มออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันตามธรรมชาติ การออกกำลังกายยังเป็นการช่วยกระตุ้นการทำงาน ของสเต็มเซลล์ (Stem cell) ที่จะมาซ่อมแซมตับของเราด้วยอีกทางหนึ่ง

การรักษาภาวะตับแข็ง
ถ้าเกิดมีภาวะตับแข็งเกิดขึ้นแล้ว แสดงว่าเนื้อตับได้ตายไปกลายเป็นพังผืดจำนวนหนึ่ง การรักษาซ่อมแซมจะเป็นไปได้อย่างยากลำบาก วิธีการรักษาจะเปลี่ยนไปมุ่งเน้นการกระตุ้นการทำงานของสเต็มเซลล์ (Stem cell) เพื่อให้สเต็มเซลล์ออกมาซ่อมแซมตับ ช่วยสร้างเซลล์ตับใหม่มาทดแทนส่วนที่เป็นพังผืดไปแล้ว แพทย์อาจพิจารณาในการใช้ยา Liraglutide ที่พอจะให้ผลในการกระตุ้นสเต็มเซลล์ได้บ้าง ทั้งนี้ก็อยู่ที่ความพร้อมของคนไข้ด้วยเช่นกัน

การฟื้นฟูตับด้วย Growth factor สารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมระดับเซลล์Growth factor สามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ ทั้งสเต็มเซลล์และเซลล์ตับ ช่วยให้การแบ่งเซลล์ ฟื้นฟูเซลล์ และซ่อมแซมเนื้อเยื่อมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Growth factor ที่ใช้ได้ผลดีในการรักษาพังผืดในตับคือ สารสกัดจากรก (Placenta extract) และ PRP (เกล็ดเลือดเข้มข้น)

การฉีดเกล็ดเลือดเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ตับฟื้นฟูตัวเองได้

ภายในเกล็ดเลือดจะมีสารกระตุ้นการซ่อมแซมของเซลล์อยู่ การนำเกล็ดเลือดมาใช้จึงเป็นการฉีดสารกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ ช่วยให้เซลล์ตับฟื้นฟูตัวเองได้ดียิ่งขึ้น แต่การใช้เกล็ดเลือดเข้มข้นจากเลือดของตัวเองในบางครั้งจะไม่สามารถควบคุมปริมาณของสาร Growth Factor ได้ ในปัจจุบันจะมีการสกัดสาร Growth factor จากเกล็ดเลือดออกมาเป็นแบบสำเร็จรูป ซึ่งมีความเข้มข้นของ Growth factor สูง สามารถควบคุมชนิดและปริมาณให้เหมาะสม การฉีดด้วย Growth factor แบบสำเร็จรูปจึงมีประสิทธิภาพมากกว่าและเห็นผลได้ชัดกว่าการใช้เลือดของตนเอง

โปรแกรมแนะนำสำหรับผู้มีภาวะตับอักเสบ
รายการ ราคา
อาหารเสริมบำรุงตับ Hepatocare 3 กระปุก

4,500 บาท

อาหารเสริมแก้ตับอักเสบ Aurawhite 3 กระปุก

3,000 บาท

ตรวจสภาวะตับแบบละเอียด FibroScan 1 ครั้ง

2,500 บาท

สารอาหารทางหลอดเลือด IV drip 5 ครั้ง

30,000 บาท

ราคาเต็ม

40,000 บาท

พิเศษซื้อยกแพค

32,000 บาท (ลด 20%)

 

โปรแกรมแนะนำสำหรับผู้มีภาวะไขมันพอกตับ และ ตับแข็ง
รายการ ราคา
อาหารเสริมบำรุงตับ Hepatocare 3 กระปุก

4,500 บาท

อาหารเสริมแก้ตับอักเสบ Aurawhite 3 กระปุก

3,000 บาท

ฉีด Growth Factor สำเร็จรูป PRP Ready 3 ครั้ง

15,000 บาท

สารอาหารทางหลอดเลือด IV drip 10 ครั้ง

60,000 บาท

ฉีดสารสกัดจากรก Placenta Ext 3 ครั้ง

15,000 บาท

ราคาเต็ม

97,500 บาท

พิเศษซื้อยกแพค

73,125 บาท (ลด 25%)

แถมฟรี FibroScan x 2 ครั้ง มูลค่า 5,000   บาท